(771) World War Z: Aftermath – Official Gameplay Overview Trailer – YouTube
เกม World War Z สร้างจากหนังสือและภาพยนตร์ชื่อเดียวกันในปี 2019 ของ Saber Interactive ที่เสนอชื่อเกมเอาชีวิตรอดแบบ Co-op ที่เหมือน Left 4 Dead พร้อมมุมมองบุคคลที่สาม แม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่ชื่อที่แหวกแนวมากนัก แต่ก็ได้นำเสนอแนวคิดใหม่ๆ 2-3 ข้อให้กับแนวเกมที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น ฝูงซอมบี้ขนาดใหญ่ที่ปรากฏอยู่ตลอดทั้งเรื่อง เป็นต้น
ในช่วงที่ผ่านมา Saber Interactive ได้ประกาศภาคเสริมที่ไม่มีใครมองเห็นว่ากำลังจะมา นั่นคือ World War Z: Aftermath ซึ่งเป็นสุดยอดวิธีการที่คุณจะได้สัมผัสกับ WWZ ในแบบ all-in-one ไม่เพียงรวมเกมหลักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเนื้อหาที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ทั้งหมดที่พบในฉบับ GOTY ตลอดจนฉบับใหม่มากมายที่มาจากส่วนเสริม Aftermath
เนื้อเรื่อง
Aftermath นำเสนอ 2 บทใหม่ล่าสุดในจักรวาล WWZ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีผู้รอดชีวิตชุดใหม่ทั้งหมดขณะที่พวกเขาเดินทางผ่านนครวาติกันไปจนถึง Roman Colleseum ส่วนที่ 2 คือการนำชุดของใบหน้าที่คุ้นเคยในกลุ่มผู้รอดชีวิตที่เราพบในบทที่โตเกียว และเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาออกจากเรือสำราญและต้องป้องกันซีเกในคาบสมุทรคัมชัตกา
ระบบเกมเพลย์
หลังจากลองเล่นแล้วผมพบว่า ทั้ง 2 บทมีความแตกต่างกันอย่างมากในด้านคุณภาพ ในขณะที่รูปแบบการเล่นส่วนใหญ่เป็นแบบเดิมๆ ซ้ำๆ ซึ่งผมรู้สึกว่าบทของกรุงโรมให้ความรู้สึกคร่ำครวญเมื่อเทียบกับคัมชัตกา แต่ก็ยังมีการนำเสนอกลไกเจ๋ง ๆ สำหรับการต่อสู้กับน้ำแข็งซึ่งค่อย ๆ สลายไปที่แถบสุขภาพของคุณ
อันตรายเพิ่มเติมใหม่สำหรับบทเหล่านี้คือการรวมหนูยังรวมไปจนถึงหนูด้วย พวกมันขลุกขลักไปมาในแอ่งน้ำและจะกระโจนใส่เพื่อจะโจมตีคุณ การเดินเข้าไปหาพวกเขา รอบๆ หรือยิงใส่พวกเขาจะทำให้พวกเขาไล่ตามคุณจนกว่าพวกเขาจะแซงคุณไปที่พื้น
จากตรงนั้น พวกเขายังสามารถโจมตีเพื่อนร่วมทีมของคุณได้หากพวกเขาเข้ามาใกล้เกินไปเมื่อพวกเขาเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งในส่วนนี้ผมคิดว่ามันดูมีเอกลักษณ์และน่าเกรงขามมาก
ภายในเกมคุณยังต้องเข้าสู่ชั้นเรียนใหม่และการออดิชั่นระยะประชิด โดยคลาส Vanguard นำเสนอความสามารถใหม่ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็นเกราะป้องกันจลาจลไฟฟ้าซึ่งคุณสามารถพุ่งทะลุฝูงเซคได้ และคุณยังสามารถอัปเกรดคลาสได้และเมื่อคุณเลเวลอัปมันจะมอบความสามารถที่ดีขึ้นหรือแข็งแกร่งขึ้นให้กับคุณ การรวมการต่อสู้ระยะประชิดด้วยสองมือใหม่นั้นดีพอ แต่ไม่รับประกันว่าจะสามารถสร้างความเสียหายได้เท่าที่ควร
สิ่งที่ผมตั้งตารอมากที่สุดคือมุมมองบุคคลที่หนึ่งใหม่ที่เปิดตัวใน Aftermath แม้ว่าจะเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมจริงๆ แต่ในทางทฤษฎีแล้ว มันถูกดำเนินการด้วยวิธีที่แย่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในทุกๆ ด้าน การเล็งเองก็ดีพอ แต่เมื่อเล็งลงมา คุณจะไม่ได้มองเข้าไปในขอบเขตหรือเล็งเหล็ก โดยคุณจะได้เส้นเล็งที่แน่นขึ้นและมุมมองแบบซูมเข้าของเส้นเล็งปกติ
สิ่งที่ทำให้ผมผิดหวังอย่างหนึ่งภายในเกม คือ ตัวละครจะมีการเคลื่อนไหวที่ช้าเมื่อใช้มุมมองนี้ และตัวละครในเกมมีแนวโน้มที่จะเลื่อนเล็กน้อยเมื่อคุณหยุดไม่ให้เดิน แม้มันจะไม่หวือหวาในบุคคลที่สาม แต่ในตอนแรก มันน่ากลัวมาก ซึ่งในช่วงแรกมันก็ให้การเล่นที่ยากอยู่เช่นกัน
ข้อเสียอีกอย่างสำหรับมุมมองนี้คือในขณะที่คุณอยู่ในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง การโจมตีระยะประชิดจะเปลี่ยนคุณเป็นมุมมองบุคคลที่สามทันที เช่นเดียวกับการกระทำอื่น ๆ ในเกมซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่น่ารำคาญเช่นกันและหากผู้เล่นที่ไม่คุ้นชินกับภาพแบบนี้อาจทำให้เกิดอาการเวียนหัวได้ง่าย แต่ทุกอย่างในเกมถือว่ามีรูปลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างมากแต่ก็ยังขาดกลไกที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ผมยังพบกับข้อบกพร่องมากมายที่ส่งผลกระทบต่อเกมทั้งหมด เป้าหมายหนึ่งคือเป้าหมายที่ยังคงอยู่บนหน้าจอตลอดระยะเวลาของด่านหนึ่ง และอีกเป้าหมายหนึ่งคือเป้าหมายที่ทำลายเกมโดยที่เกมหยุดความคืบหน้าเลย ปัญหาเช่นนี้ทำให้ดูเหมือนว่าผู้พัฒนาไม่เข้าใจมากนัก เกม, DLC หรือส่วนเสริมจำเป็นต้องส่งมอบสิ่งเหล่านี้ให้กับผู้เล่นที่พร้อมเล่น และนี่ไม่ใช่การทดสอบเบต้า แต่เป็นปัญหาหลังวันวางจำหน่าย และการจับคู่เป็นเรื่องตลกเนื่องจากคุณสามารถหลุดออกจากการแข่งขันได้เช่นกัน แม้จะเป็นการเล่นแบบออฟไลน์ก็ยังทำให้เกมแสดงข้อความประเภท “การจับคู่ล้มเหลว” บนหน้าจอ แม้ว่าคุณจะไม่ได้พยายามก็ตาม
เสียงและภาพภายในเกม
ตัวละครใหม่มีลักษณะและเสียงที่เข้ากันได้ดีกับธีมที่กำหนดไว้แล้วของตัวเกม โดยตัวละครดูมีชีวิตชีวาจริงๆ ที่ดูต่างจากการเป็นหุ่นยนต์ทางทหารที่รอดชีวิต ซึ่งนี่ถือเป็นการกลับมาที่ยอดเยี่ยมระหว่างพวกเขาซึ่งแสดงให้เห็นถึงความผูกพันที่พวกเขาสร้างขึ้นมาด้วยกันได้อย่างดี
สรุป
World War Z: Aftermath เป็นแพ็คเกจที่สมบูรณ์แบบจริงๆ มันรวมทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อดื่มด่ำกับความดีงามในการฆ่าซอมบี้ในราคาที่ยุติธรรมมาก และเมื่อเทียบราคากับเนื้อหาที่เกมให้มานั้นถือว่ามันคุ้มค่าอย่างมากซึ่งหากคุณเป็นผู้เล่นใหม่ที่ยังไม่เคยเล่นเกมนี้ ผมจะแนะนำมาก อย่างไรก็ตามหากคุณเล่นคนเดียวระยะทางของคุณอาจแตกต่างกันไป
และเนื่องจาก World War Z: Aftermath เป็นเกมที่มาในราคาย่อมเยา แต่ก็มีปัญหาที่เห็นได้ชัดซึ่งยังต้องได้รับการแก้ไข เช่นเดียวกับตัวเลือกการออกแบบบางอย่างที่น่าสงสัยที่สุด หากคุณเป็นผู้เล่นใหม่ที่ต้องการเข้าสู่เกม นี่เป็นเวลาของคุณแล้วหากคุณดำเนินการด้วยความระมัดระวัง แต่สำหรับผู้เล่นที่เคยเล่นอยู่เลยมันอาจน่าเบื่อเนื่องจากมันไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังชื่นชมการทำงานอย่างต่อเนื่องของ Saber ในเรื่องนี้ แต่ก็ยังมีวิธีที่จะทำให้มันยอดเยี่ยมและเล่นได้ดีเท่าที่ควร ดังนั้นหากคุณมองหาความคุ้มค่ากับราคาเกมที่ต้องจ่าย เกมนี้เป็นหนึ่งเกมที่ผมแนะนำอย่างมาก
