รีวิว Death’s Door

Death’s Door – Reveal Trailer – YouTube

Death’s Door คือเกมอินดี้ที่มาพร้อมกราฟฟิกที่สุดแสนแปลกตาในธีมโลกขาวดำ และสีพาสเทล แต่ความแปลกนี้เองก็เป็นตัวที่ทำให้ผู้เล่นหลายคนจดจำภาพของเกมนี้ได้เป็นอย่างดี Death’s Door คือเกมที่มาจากทีมผู้พัฒนาเกมอินดี้ Sandbox อย่าง Acid Nerve ซึ่งสตูดิโอนี้ก็มีสมาชิกเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น คือผู้เขียนบท และผู้ทำเสียงประกอบของเกม เกมทำมาในรูปแบบที่เล่นง่าย แต่แฝงไปด้วยความแปลกใหม่ จนน่าติดตาม วันนี้ผมจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก Death’s Door เกมนี้กัน ไม่แน่คุณอาจจะหลงรักเกมอินดี้เล็กๆเกมนี้ก็ได้

เนื้อเรื่องเข้าใจง่าย แต่แฝงไปด้วยปรัชญา

เราจะได้รับบทเป็นอีกาดำตัวหนึ่ง โดยเหล่าอีกาทุกตัวคือตัวแทนของยมทูตที่มีหน้าที่ในการนำพาเหล่าดวงวิญญาณกลับไปยังยมโลก เหตุเพราะว่าดวงวิญญาณที่หมดอายุขัยไปนานกว่าปกติ แล้วยังไม่ได้ไปยมโลก วิญญาณเหล่านั้นก็จะเปลี่ยนเป็นปีศาจที่ดุร้าย ดังนั้นในการนำพาดวงวิญญาณเหล่านี้กลับไปยังยมโลกจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่ระหว่างปฏิบัติงานอยู่นั้น ก็ได้มีวิญญาณดวงหนึ่งมาวิญญาณที่เราเก็บไปขโมยไป ทำให้ตัวเองของเราต้องตามหาเบาะแสของหัวขโมย และดวงวิญญาณดวงนั้น เพื่อที่จะไม่ให้เกิดลางร้ายมากไปกว่านี้

ภายในเกมผู้เขียนบทได้สอดแทรกพฤติกรรมทางธรรมชาติและหลักการรวมไปถึงปรัชญาในการมีชีวิตอยู่และที่น่าสนใจกว่านั้นคือเกมจะให้เราได้รู้ที่มาที่ไปของ Boss แต่ละตัวก่อน ทำให้การต่อสู้แต่ละครั้งนั้นจะมีความกดดันและแฝงไปด้วยความรู้สึกต่างๆมากมายในเกม Death’s Door เกมนี้ จุดนี้ต้องยกเครดิตให้คนเขียนบทเลย

เกมนี้ใช้โทนสีที่สื่อถึงความตายและการสูญเสีย

ต้องบอกเลยว่าการดีไซน์ของเกม Death’s Door ทำบรรยากาศออกมาได้สอดคล้องกับธีมของเกมอย่างมาก ทุกอย่างดูมืดหม่น และชวนให้นึกถึงความสูญเสีย ตัวละครเอกของเราจะไม่มีบทพูด เราจะได้เสพเรื่องราวจากเหล่าตัวละครมากมายภายในเกม ที่เรียกได้ว่าไม่อ่านไม่ได้เลยสำหรับเกมนี้ อ่านไปพร้อมกับฉากสุดหม่นทำเอาผมเองก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ในด้านของมุมมอง เกมนี้ได้ใช้มุมมองแบบ Isometric ที่ทำให้เรามองเห็นเป็นมุมกว้าง และด้วยชื่อเกม Death’s Door สิ่งสำคัญของเกมนี้แน่นอนว่าคือประตู เมื่อเราเดินเล่นไปเรื่อยๆเราจะเจอกับประตูมากมาย โดยเราสามารถทำสิ่งต่างๆที่ประตูนี้ได้ เช่นการเซฟเกม การ Fast Travel และเวลาที่เราเดินไปใกล้ประตูเราจะเห็นว่ามุมกล้องมีการเปลี่ยนไปโฟกัสที่ประตูเป็นหลักซึ่งเข้ากับชื่อเกมคือ Death’s Door

ระบบแอ็คชั่นที่เล่นง่าย ไม่ปวดหัว

เกมนี้เป็นเกมที่มีระบบแอ็คชั่นที่เล่นง่าย ไม่ซับซ้อน หัวใจของเกมนี้จะอยู่ที่การฝึกฝนเพราะศัตรูที่เกมให้มาไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด คุณอาจจะตายซ้ำๆแบบเกมตระกูล Soul ก็ได้ และที่สำคัญไม่มีการคอมโบสกิลอะไร หรือหากใครที่อยากได้เกมปั่นคอมโบทีละ 10 – 20 HIT เกมนี้ไม่มีแน่นอน คุณจะต้องสังเกตพฤติกรรมการเคลื่อนที่และปัจจัยอื่นๆที่ศัตรูของคุณแสงออกมา ถ้าจับทางได้ ก็สามารถชนะได้ไม่ยาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คือห้ามประมาทคู่ต่อสู้เด็ดขาด เมื่อตายเราจะไม่เสียอะไรและสามารถกลับมา ณ. จุดที่ตายได้อีกด้วย อีกสิ่งที่ดีสำหรับเกมนี้คือระบบอัพเกรด Status ที่เราสามารถอัพเกรดได้ตามความต้องการ และแนวทางการเล่นของเรา โดยวัตถุดิบที่ใช้อัพเกรดคือ Soul ที่จะดรอปเมื่อเราจัดการกับศัตรูได้นั่นเอง

Death’s Door ควรซื้อมาครอบครองหรือไม่?

สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วเกิดสนใจเกม Death’s Door เกมนี้แต่ยังลังเลว่าจะซื้อดีไหมต้องบอกก่อนว่าเกมนี้เป็นเกมอินดี้ ที่ไม่ได้มีความโดดเด่นในด้านการยิงกัน ใช้สกิล หรืองานภาพกราฟฟิกที่ไม่ได้เป็นแบบ 3มิติ หากใครซีเรียสเรื่องของสิ่งเหล่านี้คุณอาจจะต้องข้ามเกมนี้ไปก่อน แต่หากใครเป็นสายสบายๆ เสพเนื้อเรื่องฟังดนตรี เกมนี้เรียกได้ว่าอัดแน่นไปด้วยสิ่งเหล่านั้น และที่สำคัญเราจะความคิดบางอย่างเกี่ยวกับสมดุลของชีวิตกลับไปแน่นอนเมื่อเล่นเกมนี้จบ

หากใครชอบบทความเกมดีๆแบบนี้ และอยากได้ข้อมูลเกมหรือทริคเด็ดๆก่อนใคร อย่าลืมติดตาม Thismygame เพื่อที่จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ บทความเด็ดๆ ในวงการเกม